เทรนด์แต่งบ้าน 2023 แต่งเองได้ตามไลฟ์สไตล์
วันที่อัพเดท 2023-05-22 18:44:59ยิ่งกระแสเทรนด์ต่างๆ ผ่านไปมาเร็วเท่าไหร่ การจัดบ้านใหม่ก็ยิ่งสำคัญ เพราะชีวิตประจำเราเปลี่ยนไปทุกไตรมาส เทรนด์การออกกำลังกาย Work from home โซเชี่ยลมิเดียต่างๆ นำมาซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นที่ที่เปลี่ยนไป ตอนนี้พากันมาสำรวจบ้านของตัวเองว่าได้เวลาเปลี่ยนแปลงแล้วรึยัง บางครั้งการอยู่ในสถานที่เดิมๆจนเคยชินอาจทำให้ลืมไปว่า การปรับเปลี่ยนบางอย่างอาจทำให้ใช้ชีวิตได้สะดวกมากขึ้น และถึงแม้ว่าเราจะมีชีวิตประจำแบบเดิมอยู่เสมอ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่จำเป็นต้องแต่งบ้านใหม่ เพราะการเปลี่ยนบรรยากาศภายในบ้านมีข้อดีมากกว่าที่คิด
1.เน้นรูปแบบผสมผสาน และสีสันมากขึ้น
เทรนด์การแต่งบ้านของปีที่ผ่านมา คือ เรียบง่าย สบายตา มินิมอล โดยเน้นสีขาวและลายไม้ แต่ แต่ แต่! ตอนนี้กระแสของการเล่นกับสี และรูปทรง การผสมผสานกันของเฟอร์นิเจอร์ที่มีความแตกต่างกันได้กลับมาแล้ว เชื่อว่าเทรนด์นี้คงถูกใจใครหลายๆคน เพราะไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด เราสามารถจัดวางทั้งเฟอร์นิเจอร์เก่าที่มีอยู่ผสมกับเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อมาได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความเข้าชุดกัน แต่เพื่อให้เกิดความสวยงาม จำเป็นต้องมีส่วนที่สอดคล้องกัน เช่นโทนสี วัสดุ หรือ ภาพรวม แต่ถึงแม้จะไม่เข้ากันซะทีเดียว เราก็ยังสามารถใช้ของตกแต่งเพิ่ม เพื่อให้เกิดความกลมกล่อมของภาพรวมได้ ทั้งนี้การรีเสิร์ชเพื่อหาไอเดีย จะช่วยให้สามารถวางแนวทางของผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้น และการใช้สีมากกว่าสองสีขึ้นไป ก็เป็นอีกเคล็ดลับในการตกแต่งบ้านให้มีชีวิตชีวามากขึ้น
2.เพิ่มธรรมชาติในบ้าน
เทรนด์การปลูกต้นไม้ในบ้านยังคงเป็นที่นิยมตลอดกาล เพราะต้นไม้คือแหล่งพลังชีวิต สีเขียวของใบไม้ทำให้สบายตา และให้ความรู้สึกสงบ เมื่อเราพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ธรรมชาติในบ้านจะให้ความรู้สึกผ่อนนคลาย และสำหรับใครที่่ทำงานแบบ Work from home ธรรมชาติในบ้านยังช่วยให้รู้สึกสดชื่นอีกด้วย ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะปลูกอะไรอย่างไร ต้นไม้ที่ไม่จำเป็นต้องได้รับแสงอาทิตย์มากๆ มีขนาดที่พอเหมาะกับพื้นที่่ที่่มีในบ้าน บางคนอาจใช้เป็นต้นกระบองเพชรขนาดเล็กวางตกแต่งตามมุมต่างๆ หรือบางคนที่ไม่มีเวลาในการดูแลต้นไม้ก็สามารถเลือกเป็นต้นไม้ปลอมแทนได้ โดยการปลูกต้นไม้ในบ้าน จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยในการใช้ชีวิตด้วย เช่น การปลูกต้นไม้ในห้องนอน อาจทำให้เราสูญเสียออกซิเจนในห้องไปได้
3.เทคโนโลยีดีไซน์ สวยและใช้งานได้จริง
ในยุคสมัยที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นมาทุกวัน ทั้งในชีวิตประจำวันเรา ของใช้ในบ้านก็เป็นเทคโลโนยีทั้งสิ้น การแต่งบ้านโดยไม่คคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้คงทำไม่ได้ เพราะทุกอย่างล้วนเป็นองค์ประกอบของบ้าน ปัจจุบันมีการออกแบบสิ่งของงเครื่องใช้ในบ้านให้มีความสวยงาม เพื่อให้สามารถเป็นของตกแต่งบ้านได้ด้วย เช่น เครื่องดูฝุ่น แอร์ ที่วี โคมไฟเครื่องกรองอากาศ ตู้เย็น แม้กระทั้งของใช้ในครัว เช่น หม้อไฟฟ้า ที่จับของร้อน ขณะที่เลือกสิ่่งเหล่านี้ ให้เราคำนึงถึงไสตล์ของบ้าน และภาพลักษณ์สุดท้ายที่จะออกมาเมื่อนำของไปวาง ปัจจุบันมีการออกแบบผลิตภัณฑ์จากหลากหลายยี่ห้อ ทำให้สามารถเลือกสไตล์การตกแต่งได้หลากหลายยิ่งขึ้น
4.เน้นความสะดวกสบาย
เทรนด์การแต่งบ้านโดยคำนึงกากรใช้งาน มากกว่าความสวยงาม ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัย เหมาะกับพื้นที่พักอาศัยที่มีความจำกัด และเหมาะกับคนที่อยู่บ้านเป็นประจำ หากเรามีชีวิตประจำวันที่กำหนดไว้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง ก็สามารถที่จะออกแบบพื้นที่ให้สอดคล้องกันได้ วางสิ่งของที่ต้องใช้ไว้ในที่ที่หยิบใช้งานสะดวก กำหนดวามต้องการเวลาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ให้สอดคล้องกับการใช้งานจริง โดยการแต่งบ้านรูปแบบนี้ไม่จำเป็นต้องดูรก หรือไม่เข้ากันเสมอไป เราสามารถกำหนนดข้อจำกัดบางอย่างเพื่อให้เกิดความสวยงามได้ เช่น โทนสี วัสดุที่ใช้ หรือการตกแต่งเพิ่มด้วยพรม หรือผ้าม่านที่มีลวดลายสวยงาม
5.การใช้งานแบบบมัลติฟังก์ชั่น
ในปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นไม่จำเป็นตต้องถูกใช้งานในลักษณะเดียวอีกต่อไป การใช้งานแบบอเนกประสงค์ช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดี นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลายโดยเฉพาะ ยังเสริมให้บ้านดูดีมีความน่าสนใจมากขึ้นอีกด้วย ความเท่ห์ในการออกแบบที่มีความซับซ้อน คือจุดที่จะทำให้บ้านมีความน่าสนใจ และยังเเป็นที่จดจำของผู้มาเยือนอีกด้วย เช่น เตียงนอนที่มีฐานมีช่องสำหรับเก็บของ โต๊ะญี่ปุนที่มีช่องสำหรับวางโทรศัพท์ ชั้นวางของที่มีทั้งลิ้นชัก และที่แขวงพวงกุญแจ
6.พื้นที่เพื่อสุขภาพ
เทรนด์การดูแลสุขภาพถูกพูดถึงมากขึ้น เมื่ออินเทอร์เน็ตและความรู้ถูกกระจายไปอย่างกว้างขวาง การดูแลสุขภาพกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน นำมาซึ่งการจัดพื้นที่ใหม่ สำหรับบ้านที่มีพื้นที่มากพออาจสร้างห้องฟิตเน็ตส่วนตัวไว้ในบ้านได้เลย แต่หลายๆครั้งที่เรามีพื้นที่จำกัดดั้งนั้น การออกแบบเพื่อใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงชีวิตประจำวันอื่นๆด้วย ข้อแนะนำคือ หากคุณเป็นคนขี้เบื่อหรือเป็นผู้เริ่มต้นในการดูแลตัวเอง ไม่ควรรีบซื้อเครื่องออกกำลังกายยขนาดใหญ่มาตั้งไว้กลางบ้าน เพราะหากคุณไม่ได้ใช้งานมัน มันจะกลายเป็นเพียงสิ่งขวางทางเดิน และกินพื้นที่บ้านของคุณ การเว้นพื้นที่ว่างไว้ราวๆ 2 x 3 เมตร เพื่อใช้สำหรับออกกำลังกายง่ายๆภายในบ้านก็ถือเป็นวิธีที่ดี โดยคุณสามารถใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายขนาดเล็ก เช่น เสื่อโยคะ ตุ้มน้ำหนัก เชือกกระโดดได้ และอุปกรณ์เหล่านี้ยังจัดเก็บได้ง่ายอีกด้วย ทำให้ไม่เปลืองพื้นที่ในบ้านมากนัก และพื้นที่ที่ใช้สำหรับออกกกำลังกาย ยังสามารถใช้ประโยชน์ในกิจกรรมอื่นๆได้อีกด้วย
7.มุมทำงานที่มีประสิทธิภาพ
หลังผ่านช่วงโรคระบาดโควิด-19 มาแล้ว หลายๆบริษัทเลงเห็นถึงข้อดีของการ Work from home ทำให้หลายๆคนทำงานอยู่ที่บ้าน และต้องกำหนดขอบเขตพื้นที่เพื่อใช่สำหรับทำงานโดยเฉพาะ เพราะการทำงานบนพื้นที่พักผ่อน หรือในห้องนอน อาจทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องจัดเตรียมพื้นที่ให้ดี โดยข้อแนะนำมีดังนี้
- มีแสงสว่างเพียงพอ โดยมาจากสงธรรมชาติ หรือการติดตั้งแสงสว่างเพิ่มก็ได้
- อุปกรณ์ เครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับงนาควรอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้การลุกออกจากเก้าอี้ แต่ละครั้ง อาจรบกวนสมาธิในกาารทำงานได้
- สื่อบันเทิงต่างๆ ควรอยู่ให้ห่างที่สุด หรืออยู่ในจุดอับสายตา เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวน
- โต๊ะและเก้าอี้ทำงาน ควรมีความสบายไม่ทำให้เกิดความเมื้อยล้าจนเกินไป เพื่อให้เ้ราสามารถอยูในพื้นที่นั้นได้นานๆ
8.ผสมผสาน เส้นโค้ง
ทรงโค้งได้รับควาามนิยมอย่างมากในร้านคาเฟ่ตั้งแต่ปี 2021 และจนปัจจุบันก็ยังคงเป็นเทรนด์ที่ดึงดูดสายตาผู้คน โดยเส้นโค้งนั้น ให้ความรู้สึกอ่อนโยน อบอุ่น และเสริมความงามให้กับพื้นที่ว่าง ที่ได้้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ ซุ้มโค้งบริเวณประตู หรือทางเดิน นนอกจากจะทำให้พื้นที่นั้นดูน่าสนใจแล้ว ยังเป็นมุมที่ถ่ายรูปสวยอีกด้วย ในยุคที่การอัพโซเชี่ยลอยู่ในชีวิตประจำวันนั้น การมีเส้นโค้งภายในบ้านถือเป็นการตอบโจทย์ได้ดี ทั้งนี้การผสมผสานของเส้นโค้งกับเส้นตรงจะทำให้เกิดนความสงยงามที่สุด เพราะจะไม่เลี้ยนจนเกินไป เช่น โต๊ะทรงกลม และชั้นวางของทรงสี่เหลี่ยมวางตั้งอยู่ข้างกัน